จัดส่งฟรีเมื่อช้อปครบ 1,500 บาท

“รอยสิว” ปัญหากวนใจท็อปฮิต เกิดจากอะไร? รักษายังไงให้ตรงจุด?

“รอยสิว” ปัญหากวนใจท็อปฮิต เกิดจากอะไร? รักษายังไงให้ตรงจุด?

“สิว” ปัญหาอันดับหนึ่งของใครหลายๆ คนที่เกิดขึ้นได้กับทุกสภาพผิวหน้า และที่ต้องให้เป็นอันดับหนึ่งก็เพราะว่าเมื่อไรก็ตามที่เกิดสิวบนใบหน้าแล้ว การดูแลรักษานั้นจะไม่จบแค่ที่กำจัดสิวให้หายไป แต่สิวเหล่านี้ยังมักทิ้งสิ่งที่เรียกว่า “รอยสิว” เอาไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นรอยดำ รอยแดง ที่เมื่อเกิดขึ้นเมื่อไร อาจต้องใช้เวลารักษานานยิ่งกว่ารักษาสิว

และเพราะรอยสิวเป็นปัญหาโลกแตกที่ใครๆ ต่างไม่อยากพบเจอ เราเลยอยากพาไปทำความเข้าใจเรื่อง “รอยสิว” ให้ลึกถึงต้นตอ ตั้งแต่ต้นเหตุของรอยสิว รอยสิวรูปแบบต่างๆ วิธีรักษารอยสิวให้หายรวดเร็วที่สุด รวมไปถึงการป้องกันไม่ให้เกิดรอยสิวบนใบหน้าอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

รอยสิวเกิดจากอะไร?

รอยสิวสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุหลักมักมาจากอุดตันของไขมันบนผิวหนังในช่วงที่เป็นสิว ซึ่งทำให้ต่อมาสิวเกิดการอักเสบ ระคายเคือง จนสุุดท้ายทิ้งเป็นรอยสิวเอาไว้หลังจากที่สิวยุบตัวลง นอกจากนี้สาเหตุอื่นที่มีผลต่อการเกิดรอยสิวด้วยเช่นกัน ได้แก่ พฤติกรรมในช่วงที่เป็นสิว เช่น การแกะสิว การกินอาหารที่มีไขมัน ซึ่งทำให้ผิวสามารถเกิดการอุดตันและอักเสบได้ง่าย และทำให้รอยสิวอยู่บนผิวหน้านานกว่าเดิม

รอยสิวแต่ละชนิดเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกัน และอยู่ในระยะของการเป็นสิวที่แตกต่างกันออกไปด้วย ตัวอย่างรอยสิวที่หลายคนรู้จัก กับสาเหตุการเกิดรอยสิวนั้นๆ เช่น “รอยแดง” มีต้นเหตุหลักมาจากการอุดตันของไขมันบนผิวหนัง แล้วไปกระตุ้นให้สิวเกิดการอักเสบ บวมช้ำ จนทำให้ร่างกายต้องซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่กำลังอักเสบด้วยการไหลเวียดเลือดให้เพิ่มขึ้น จนเกิดเป็นรอยสีแดง

“รอยดำ” เกิดขึ้นหลังจากที่รอยแดงหายไป ผิวจะเริ่มถูกกระตุ้นให้มีการสร้างเม็ดสีผิวหรือ Melanin เพิ่มขึ้น บริเวณที่เป็นสิวนั้นจึงกลายเป็นจุดที่มีรอยสีเข้มกว่าผิวปกติ  “หลุมสิว” รอยสิวที่มาจากการอักเสบของสิว หรือการแกะสิว จนผิวหนังรักษาตัวเองจนยุบตัวลงไปเป็นหลุม รวมถึง “รอยแผลเป็นนูน” หรือคีลอยด์ ซึ่งเกิดจากสิวอักเสบและผิวซ่อมแซมตัวเองด้วยการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นใหม่ จนทำให้ผิวนูนขึ้นจากเดิม

 

รอยแดงกับรอยดำ ต่างกันอย่างไร?

              รอยสิวสุดฮิตที่เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเจอกันอยู่แทบจะทุกครั้งที่เป็นสิวก็คือ รอยแดง และรอยดำ แม้ว่าจะเป็นรอยสิวที่เกิดขึ้นจากต้นเหตุคล้ายๆ กันคือการอักเสบของสิว แต่รอยแดงกับรอยดำก็มีความแตกต่างที่เราควรทำความเข้าใจ เพื่อที่จะรับมือกับรอยเหล่านี้ได้อย่างถูกจุด โดยเราสามารถจำแนกความแตกต่างของรอยสิวทั้ง 2 ชนิดได้ดังนี้

ช่วงเวลาการเกิดรอยสิว : อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่ารอยแดงและรอยดำมักเกิดจากสาเหตุเดียวกันคือการอักเสบของผิว แต่รอยแดงจะเกิดขึ้นในระหว่างการอักเสบ และหากสิวอักเสบเป็นระยะเวลานานจะเกิดเป็นรอยดำตามมา ซึ่งรักษาให้หายได้ยากกว่ารอยแดง

ลักษณะของรอยสิว : รอยแดงจะเป็นรอยสิวที่สังเกตสีได้ชัดเจน เนื่องจากเป็นการอักเสบที่เกี่ยวกับหลอดเลือด ในขณะที่หากเป็นรอยดำจะต้องสังเกตจากสีผิวที่เข้มขึ้นกว่าปกติ โดยอาจมองเห็นเป็นสีเทา น้ำตาลอ่อน ขึ้นอยู่กับสีผิวของแต่ละคน

 

วิธีรักษารอยสิวให้หายไว ไม่ทิ้งรอยนาน

โดยทั่วไปร่างกายของเราสามารถฟื้นฟูตัวเองจากผิวอักเสบและรอยสิวต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ แต่เราสามารถดูแลให้ผิวทำงานได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้รอยสิวจางลงเร็วขึ้นได้ด้วยวิธีต่อไปนี้

  • งดการแกะและเกาบริเวณที่เป็นสิว โดยเฉพาะรอยแดงที่เกิดขึ้นในช่วงที่สิวกำลังอักเสบอยู่ การที่มือและเล็บของเราซึ่งอาจมีเชื้อแบคทีเรียไปจับหรือรบกวนจะเพิ่มโอกาสการอักเสบให้มากขึ้น
  • ใช้สกินแคร์ที่ลดการอักเสบและลดรอยสิว เช่น คอร์ติโซน (Cortisone) ที่ช่วยลดรอยแดงได้ สกินแคร์ที่มีคุณสมบัติในการช่วยปลอบประโลมผิว หรือสกินแคร์ที่มีสารจำพวกวิตามินซี (Vitamin C) อาร์บูติน (Arbutin) เซราไมด์ (Ceramide) ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) ที่ช่วยทำให้รอยจางลง และลดการสร้างเม็ดสีผิว
  • หลีกเลี่ยงแสงแดด เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้เม็ดสีทำงานมากขึ้น มีผลให้ผิวคล้ำและรอยดำยิ่งชัดขึ้นด้วย
  • รักษาสมดุลของผิว ทั้งในเรื่องของความชุ่มชื้น การผลัดเซลล์ผิวและการสร้างผิวใหม่อย่างสม่ำเสมอ
  • ทำหัตถการ เช่น การฉีดสเตียรอยด์เพื่อลดการนูนของรอยสิวแบบนูน หรือการทำเลเซอร์หลังจากที่เกิดรอยสิวขึ้นแล้ว เพื่อให้รอยสิวจางลงและหลุมสิวตื้นขึ้น

 

“SKINPRO Rx Acne X Spot Repair” รับมือรอยสิวทุกรูปแบบ ครบ จบในหลอดเดียว

หนึ่งในวิธีรับมือกับรอยสิวที่เกิดขึ้นได้ในทุกๆ วันก็คือการมีไอเท็มลดรอยสิวติดโต๊ะเครื่องแป้งเอาไว้ Acne X Spot Repair จาก SKINPRO Rx ผลิตภัณฑ์เวชสำอางแบรนด์ไทยที่พยายามคิดค้นและพัฒนาสกินแคร์ที่เข้าใจผิวคนไทยโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง โดย Acne X Spot Repair เป็นครีมลดรอยสิวที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของเซลล์ผิวให้ฟื้นตัวจากการอักเสบ และทำให้รอยสิวจางลงด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ คือ

  • Cica Extract (Centella Asiatica) สารสกัดจากใบบัวบก ช่วยปลอมประโลมผิวจากการอักเสบและระคายเคือง เพื่อช่วยให้รอยแดงจางลง พร้อมกับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว
  • Oligopeptide ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวซ้ำ
  • Licorice Extract & Onion Extract สารสกัดจากชะเอมเทศและหอมแดง ช่วยลดการผลิตเมลานินหรือเม็ดสี ทำให้รอยดำจางลง ทำให้ผิวดูกระจ่างใสอย่างสม่ำเสมอ และป้องกันโอกาสเกิดรอยใหม่
  • สารสกัดกลุ่มวิตามิน เอ (Hydroxypinacolone Retinoate) เสริมสร้างกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ช่วยลดเลือนจุดด่างดํา และกระชับรูขุมขน
  • Honey Extract สารสกัดจากน้ำผึ้งป่า ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน รวมทั้งช่วยรักษาสมดุลและความชุ่มชื้นของผิว

SKINPRO Rx Acne X Spot Repair ตัวช่วยสำคัญในการดูแลผิวช่วงเป็นสิวและหลังเป็นสิวอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถจัดการรอยสิวได้ทั้งรอยแดง รอยดำ หลุมสิว และรอยแผลเป็นจากสิว โดยสำหรับคนที่ผิวมัน เป็นสิวง่าย สามารถใช้ร่วมกับสกินแคร์ในกลุ่ม Acne X เป็นประจำได้ทุกวัน

 

Start typing and press Enter to search

Shopping Cart

ไม่มีสินค้าในตะกร้า